หลวงปู่สุวรรณ สุจิณโณ(หลวงปู่หมา)
วัดใต้ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ท่านอาจารย์สุวรรณเมื่อท่าน อายุได้เพียง ๖ เดือน มารดาของท่านก็ได้ถึงแก่กรร มลง ในขณะนั้นไม่มีใครพอที่จะมี น้ำนมหรือแม้กระทั่งหญิงแม่ ลูกอ่อนที่พอจะแบ่งปันน้ำนม ให้ท่านได้ดื่มกินได้เลย
เมื่อท่านหิวมากและไม่มีใคร คอยเฝ้าดู ท่านได้คลานเข้าไปดูดนมสุนั ขแม่ลูกอ่อนที่อยู่ในบ้านขอ งท่าน
ซึ่งสุนัขตัวนั้นก็มิได้ขัด ขืนหรือทำร้ายอะไรท่านแต่กั บยินยอมให้ท่านดื่มกินเสมือ นลูกของมัน หรือว่ามันอาจจะรู้และเห็นใ จท่านที่กำพร้าแม่ก็เป็นได้ เหตุนี้เองท่านจึงได้ชื่อว่ าหมา
เมื่อท่านสร้างวัดวาอาราม วิหารอุโบสถ อีกทั้งสิ่งต่างๆ ท่านจะสร้างรูปปั้นสุนัขไว้ เป็นสัญลักษณ์ เช่นพระอุโบสถหลังเก่าวัดอร ัญวาสี ท่าบ่อ" เพราะท่านระลึกถึงคุณของสุน ัข
ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์สุวรร ณท่านเป็นไข้มาเลเรียเรื้อร ัง จนป้างหย่อน (ม้ามย้อย คือม้ามโต) อันเป็นผลมาจากไข้มาเลเรียน ั้นเอง โรคนี้เองที่ทำความรำคาญให้ แก่ท่านตลอดเวลา ซึ่งทำให้จับไข้วันเว้นวัน และทำให้กำลังทรุดลงทรุดลง
ท่านจึงได้เข้าปรึกษาการรัก ษาโรคนี้กับหลวงปู่มั่นฯ
หลวงปู่มั่นจึงได้แนะนำอุบา ยให้คือ
เมื่อบำเพ็ญจิตให้เกิดกระแส แต่ก่อนที่เราบำเพ็ญมาในเบื ้องต้นนั้นเราทำจิตให้เกิดก ำลังแล้ว จิตก็จะเกิดกระแส กระแสจิตนี้มีกำลังมากขึ้นจ ากการอบรม เราได้ใช้กระแสจิตนี้พิจารณ ากายทุกส่วนจนเกิดปัญญา เมื่อเกิดปัญญาแล้วอบรมให้ม ากก็เป็นผล
คือจิตดำเนินเข้าสู่อริยสัจ จ์ เมื่อเราจะนำมาเป็นประโยชน์ แก่การรักษาโรคของตัวของเรา เราก็พึงใช้กระแสจิตนี้เพ่ง เข้าที่เกิดโรค เราเป็นโรคอะไรที่ไหน
ต้องพิจารณาให้เห็นสมุฏฐานข องมันเสียก่อน ว่าตำแหน่งที่เกิดโรคอยู่ตร งไหน เมื่อทราบชัดแล้วก็ใช้กระแส จิตเพ่งเข้าไป การเพ่งเข้าไปในที่นี้ก็เหม ือนกับเราพิจารณากายเหมือนก ัน
ต่างแต่การกำหนดแก้โรคนี้ต้ องกำหนดลงจุดเดียว ณ ที่สมุฏฐานของโรคนั้น
ท่านพระอาจารย์สุวรรณได้อุบ ายนี้แล้ว ก็ได้ไปดำเนินจิตอยู่อย่างน ั้นองค์เดียวที่เปลี่ยวแห่ง หนึ่ง กำหนดลงครั้งแรกได้เห็นสมุฏ ฐานการเกิดของโรคคือ
“ม้าม”
ท่านได้กำหนดลงจุดเดียวด้วย อำนาจแห่งกระแสจิต อันเป็นแสงคมกล้า เพียงสามวันเท่านั้นก็ปรากฏ ชัดขึ้นในจิต ครั้นแล้วก็หายจากม้ามหย่อน นั้นฉับพลัน ท่านคลำดูอยู่ทุกวัน แต่กาลก่อนม้ามนี้ได้ยานลงม าประมาณฝ่ามือหนึ่ง บัดนี้ได้หดเข้าอยู่เท่าเดิ ม
ตั้งแต่นั้นมาไข้ป่ามาเลเรี ยก็หยุดจับ ร่างแข็งแรงเป็นปรกติ อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านได้เอาไปเล่าถวายหลวงปู ่มั่น ฯ
หลวงปู่มั่น ก็รับรอง
ผู้เขียนและเรียบเรียง : พระญาณวิริยาจารย์ (พระอาจารย์วิริยังค์)
เจ้าอาวาส วัดธรรมมงคล แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เมื่อท่านหิวมากและไม่มีใคร
ซึ่งสุนัขตัวนั้นก็มิได้ขัด
เมื่อท่านสร้างวัดวาอาราม วิหารอุโบสถ อีกทั้งสิ่งต่างๆ ท่านจะสร้างรูปปั้นสุนัขไว้
ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์สุวรร
ท่านจึงได้เข้าปรึกษาการรัก
หลวงปู่มั่นจึงได้แนะนำอุบา
เมื่อบำเพ็ญจิตให้เกิดกระแส
คือจิตดำเนินเข้าสู่อริยสัจ
ต้องพิจารณาให้เห็นสมุฏฐานข
ต่างแต่การกำหนดแก้โรคนี้ต้
ท่านพระอาจารย์สุวรรณได้อุบ
“ม้าม”
ท่านได้กำหนดลงจุดเดียวด้วย
ตั้งแต่นั้นมาไข้ป่ามาเลเรี
หลวงปู่มั่น ก็รับรอง
ผู้เขียนและเรียบเรียง : พระญาณวิริยาจารย์ (พระอาจารย์วิริยังค์)
เจ้าอาวาส วัดธรรมมงคล แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น