วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

หลวงพ่อชา สุภัทฺโท ต่อสู้กามราคะ

หลวงพ่อชา สุภัทฺโท 
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ต่อสู้กามราคะ 
"เหตุเกิด เพราะ แม่ม่ายสาวสวย แถมรวยทรัพย์คนหนึ่ง มาถวายจังหันหลวงพ่อชาทุกวัน ไม่ช้าไม่นาน หลวงพ่อรู้สึกว่า

สีกาม่ายคนนี้ คิดมิดีมิร้าย กับท่านเสียแล้ว ตัวท่านเอง จิตใจก็ชักหวั่นไหว …

มารกับธรรมะสู้รบกันอย่างหนักหน่วง ภายในจิต กระทั่งท่านคิดปรุงแต่งเรื่องของแม่ม่าย จนรู้สึกว่าจะไว้ใจตัวเอง ไม่ได้แล้ว ท่านก็เลยตัดสินใจเก็บบริขาร รีบจากวัดบ้านต้อง ในกลางดึก!

ไปหา หลวงปู่กินรี จันทิโย ยังวัดป่าเมธาวิเวก ระยะที่ พักอยู่นั้น ท่านได้ทำความเพียร ปฏิบัติธรรม อย่างเคร่งครัด แต่ กามราคะ
ก็ได้เข้ามา รุมเร้าหลวงพ่อชา อย่างรุนแรง!

ไม่ว่าจะเดินจรม นั่งสมาธิ หรืออิริยาถใดก็ตาม ปรากฎว่า มีอวัยวะเพศของผู้หญิง ลอมปรากฎเต็มไปหมด เกิดความรู้สึกรุนแรง เดินจงกรมก็ไม่ได้เพราะ องค์กำเนิด ถูกผ้าเข้า ก็มีอาการไหวตัว

ต้องให้เขา ทำที่จงกรมในป่าทึบ เพื่อเดินเฉพาะในเวลาค่ำมืด และเวลาเดิน ต้องถลกสบงพันเอวไว้ การต่อสู้กับกามราคะ เป็นไปอย่างทรหดอดทน ขับเคี่ยวกันอยู่นาน ถึง ๑๐ วัน

… ความรู้สึก และ นิมิตเหล่านั้น จึงสงบและหายขาดไป

กามราคะ ก็เหมือนกับสุนัข ถ้าเอาข้าวเปล่าๆ ให้กินทุกวันๆ มันก็อ้วน อย่างหมูเหมือนกัน การปฏิบัตินั้น ยากหลายอย่าง แต่ที่ยากจริงๆ

ก็เรื่องผู้หญิง นี่แหละ … ระวังนะ! อย่าให้งูเห่ามันฉก วันไหน มันแผ่แม่เบี้ยมากๆ ก็ให้ทำความเพียรให้มาก!"

คืนหนึ่งในพรรษานั้น หลังทำความเพียรเป็นเวลาพอสมควร หลวงพ่อได้ขึ้นไปพักผ่อนบน กุฏิ กำหนดสติเอนกายลงนอน พอเคลิ้มไปเกิดนิมิตเห็นหลวงปู่มั่น เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วส่งลูกแก้วให้ลูกหนึ่ง พร้อมกับกล่าวว่า...

"ชา... เราขอมอบลูกแก้วนี้แก่ท่าน มันมีรัศมี สว่างไสวมากนะ"

ในนิมิตนั้น ปรากฏว่าตนได้ลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับยื่นมือไปรับลูกแก้วจากหลวงปู่มั่นมากำไว้ พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นแปลกใจมาก ที่พบตัวเองนั่งกำมืออยู่ดังในความฝัน จิตใจเกิดความสงบระงับผ่องใส พิจารณาสิ่งใดไม่ติดขัด มีความปลื้มปิติตลอดพรรษา

พระ อาจารย์รูปหนึ่งกราบเรียนถามหลวงพ่อชาว่า

บางครั้งก็ภาวนาไม่ลง เพราะถ้าเห็นผู้หญิงสาวสวย ๆ ก็เกิดมีความรัก ชอบมองดู ผมเขาก็สวยดูเรือนร่างของผู้หญิงแล้วสวยงามไปหมด ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร

นั่นแหละเราไปหลงในรูปร่างกายของคนอื่น ถ้ายึดว่าสวยก็ไปหลงรัก ถ้ายึดว่าไม่สวยก็ไปหลงชัง

เพราะเรายังภาวนาไม่เป็นเกิดความมัวเมา ลุ่มหลงอย่างนั้น ดูให้แน่ชัดซิว่ามันสวยจริง ๆ หรือ ถ้ามันยังตอบว่าสวยจริง ๆ ก็หันไปดูแม่ยายของเขาเสียก่อนว่า มีสภาพเป็นอย่างไร ผมที่ว่าดำสลวยสวยงามนั้น อีกไม่นานก็จะหงอกขาว

เนื้อ หนังที่เต่งตึงในวัยสาวพอถึงวัยชรามันก็เหี่ยวย่น หย่อนยานไป นับวันจะทรุดโทรมลงทุกวัน ๆ ดูแม่เขาซิ เมื่อก่อนเขาก็สวย แต่เดี๋ยวนี้เขาก็มีอันเปลี่ยนไปดูไม่ได้ใช่ไหม นั่นแหละมันเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ

กฏของสภาวะธาตุที่ไม่มีใครจะ ฝ่าฝืนได้ ควรที่เราจะหันมาค้นคว้าพิจารณาดู เพื่อให้รู้แจ้งทั้งร่างกายของเราและของคนอื่นด้วยการพิจารณาอสุภกรรมฐาน เพื่อเพิกถอนความลุ่มหลงของจิตใจให้จางคลายไป

เพราะหมดความสงสัย ว่าสวยว่างาม เพราะเราดูเพียงผิวเผินจึงทำให้ลุ่มหลงเอามาก ๆ ให้พวกเราพิจารณาให้ลึกซึ้งด้วยปัญญา จึงจะเห็นตามสภาพความเป็นจริง จึงจะสามารถถอดถอนความกำหนัดยินดีออกจากจิตใจได้

“ออกมาแล้วยังอยากจะกลับเข้าไปอีกเหรอ กว่าจะคลอดออกมาได้ จมอยู่กับของสกปรก ผ่านของสกปรกมามากแค่ไหน ยังไม่รู้สึกอีก”

“กาม นี้พระพุทธเจ้าหรือปราชญ์ทั้งหลายท่านสอนว่า เหมือนกันกับคนกินเนื้อสัตว์ เมื่อมันเข้าไปในซี่ฟันเจ็บปวด แล้วก็เอาไม้มาจิ้มมันออก แหม ! สบายนะ เดี๋ยวก็คิดอยากอีกแหละ อยากเนื้ออีกก็มากินอีก

เนื้อมันก็ยัดเข้า ไปในซี่ฟันแล้วก็ปวดอีก ไปหาไม้มาแหย่มันออกจิ้มมันออก แล้วก็สบายอีกแล้ว แต่นึกไปอีกอยากอีก ใช่ไหม ไม่รู้จัก ยังงั้นถึงเป็นกรรม กามนี่ขนาดนี้ ไม่ดีไปกว่านั้น พอปานนั้นแหละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Sample text

Sample Text

Sample Text

 
Blogger Templates